ข้ามไปข้อมูลหลัก

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท สยามโอเชี่ยนเวิร์ล กรุงเทพ จำกัด ผู้ให้บริการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sealife Bangkok มุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เคารพและปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายเพิ่มเติมอื่น ๆ ในอนาคต ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับ การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บ วัตถุประสงค์ในการประมวลผล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก รายละเอียดในการดูแลรักษาความปลอดภัยและระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ประเภทบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
    • ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • ลูกค้า

  • บุคคลที่ใช้บริการและ/หรือซื้อสินค้าจากบริษัทฯ และ/หรืออาจซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ ผ่านช่องทางพันธมิตรทางการค้าหรือตัวแทนผู้ให้บริการของบริษัทฯ บุคคลที่สมัครสมาชิกรายปีหรือผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าแบบออนไลน์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท
  • ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลการซื้อสินค้า และ/หรือการรับบริการจากบริษัทฯ
  • ผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ
  • ผู้ที่ให้ความเห็นในการแนะนำติชมการเข้าใช้บริการพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล องค์กร โรงเรียน และ/หรือ ผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลได้ปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางขาย เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน ผู้ติดต่อ ผู้สั่งจ่าย เป็นต้น

แหล่งที่มา;

  • เมื่อท่านแสดงเจตนาและความประสงค์ในการใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากบริษัทฯ และเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ
  • เมื่อท่านได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครใช้บริการและ/หรือสินค้าของบริษัทฯ ผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ อีเมล การพบปะสนทนาโดยตรงหรือโดยวิธีการอื่น ๆ
  • เมื่อท่านได้เข้าใช้บริการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ของบริษัทฯ
  • เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์ และแนะนำบริการ/สินค้า หรือเมื่อท่านได้ให้ความเห็นในการเข้าใช้บริการพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เมื่อมีการทำธุรกรรมการขายกับลูกค้านิติบุคคลและท่านเป็นผู้ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • คู่ค้า /พันธมิตรทางธุรกิจ / ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า

  • บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือเสนอการให้บริการให้แก่บริษัทฯ
  • บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องตามสัญญาใด ๆ กับบริษัทฯ หมายความรวมถึง ผู้ขาย ผู้จัดหา ผู้ให้บริการ ผู้รับทำงาน ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกัน
  • บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นนิติบุคคล ผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ในกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 

แหล่งที่มา;

  • เมื่อท่านแสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้า พันธมิตรทางการค้า กับบริษัทฯ
  • เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และส่งมอบข้อมูล เอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาให้กับบริษัทฯ
  • เมื่อท่านได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น คำติชม ต่อบริษัทฯ ทางอีเมล โทรศัพท์ หรือโดยวิธีการอื่นใด
  • บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลทางการค้าที่ท่านเป็นผู้เปิดเผยด้วยตัวเอง หรือให้ความยินยอมแก่ผู้อื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • ผู้สมัครงาน

  • บุคคลที่ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการขอสมัครงานมายังบริษัทฯ โดยตรง หรือเป็นบุคคลที่ยินยอมให้ผู้อื่นเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงานมายังบริษัทฯได้
  • บุคคลที่อาจได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นบุคลากรของบริษัทฯ โดยหมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน เช่น บุคคลอ้างอิง บุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

แหล่งที่มา;

  • เมื่อท่านส่งข้อมูลการขอสมัครงานและข้อมูลประกอบมาทางอีเมลให้กับบริษัทฯ การสมัครงาน ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ
  • การยื่นใบสมัครด้วยตัวเองที่บริษัทฯ
  • การสมัครผ่านอีเว้นท์หรือบูธรับสมัครงานของบริษัทฯ
  • เมื่อท่านเข้ารับการสัมภาษณ์งานกับทางบริษัทฯ
  • บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทจัดหางาน เว็บไซต์สมัครงาน
  • บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่ท่านอ้างอิงในขั้นตอนการสมัครงาน สถานศึกษา หรือหน่วยงานของรัฐ รวมถึงแหล่งข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในส่วนที่ท่านเป็นผู้เปิดเผยด้วยตัวเอง หรือในส่วนท่านได้ให้ความยินยอมกับผู้อื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • บุคลากร

  • บุคคลที่เป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือบุคคลใดที่ทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้แก่บริษัทฯ โดยได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นจากบริษัทฯ เช่น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน บุคลากร นักศึกษาฝึกงาน ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

แหล่งที่มา;

  • เมื่อท่านได้รับการพิจารณาให้เข้าเป็นบุคลากรของบริษัทฯ และ/หรือ ท่านได้เข้าทำสัญญาการเป็นบุคลากรของบริษัทฯ ตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ
  • บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและบุคลากร

  • บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและบุคลากร รวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลอ้างอิง บุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ในเรื่องประกันชีวิต ผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น

 

 

แหล่งที่มา;

  • บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้องกับท่าน ในขั้นตอนของการสมัครงาน หรือเมื่อท่านได้รับการพิจารณาให้เข้าเป็นบุคลากรของบริษัทฯ ซึ่งท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวบนพื้นฐานที่ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวให้สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมายังบริษัทฯ ได้
  • บุคคลทั่วไป

  • บุคคลอื่นใดนอกเหนือจากบุคคลในประเภทข้างต้น ที่บริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง หรือเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติจากการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น ผู้ติดต่อทั่วไป ผู้ที่ถูกบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) และผู้ที่เข้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นต้น

แหล่งที่มา;

  • เมื่อท่านได้ติดต่อมายังบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการมาติดต่อด้วยตนเอง หรือติดต่อผ่านช่องทางต่าง ๆ
  • เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม
  • เมื่อท่านถูกบันทึกภาพเคลื่อนไหวโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) หรือถูกบันทึกภาพนิ่ง ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของบริษัทฯ
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวมรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เช่น

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เพศ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง สัญชาติ ลายมือชื่อ รูปถ่าย สถานภาพทางทหาร ข้อมูลบุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส บุตร เป็นต้น) ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น)
  • ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่ทำงาน สถานที่จัดส่งสินค้า หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์แอปพลิเคชัน ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสลูกค้า รหัสคู่ค้า เลขที่อ้างอิงการสั่งซื้อ เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร วงเงินสินเชื่อ ใบสำคัญรับเงิน ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมหรือนิติกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต่าง ๆ ใบขอเปิดบัญชีลูกค้า สำเนาหนังสือรับรองบริษัท หนังสือมอบอำนาจ สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับนิติกรรม สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาบัญชีธนาคาร ใบขอเปิดบัญชีคู่ค้า ข้อมูลประวัติผลงาน ใบส่งมอบงาน ใบสมัครงาน ใบรับรองแพทย์ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล สัญญาจ้างงาน หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการฝึกอบรม เช่น ใบแสดงผลการศึกษา หนังสือรับรองคุณวุฒิ ทักษะทางด้านภาษา ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ ทักษะการพิมพ์ ข้อมูลการอบรมและการทดสอบ ข้อมูลกิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างการศึกษา เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ข้อมูลที่ปรากฏใน Resume/CV จดหมายสมัครงาน ประวัติอาชญากรรม ประวัติบุคคลล้มละลาย ประวัติสุขภาพ ทักษะทางจิตวิทยา ความสามารถในการไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด/ต่างประเทศ ตำแหน่งงานที่สมัคร เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลบุคคลอ้างอิง ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือเอกสารอ้างอิงต่าง ๆ ข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและประเมินผล เช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่งงาน สังกัด สายการบังคับบัญชา ผลประเมินการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานหรือรางวัลที่เคยได้รับ ภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการโอนย้ายพนักงาน เอกสารการลาออกจากการเป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัทฯ เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน โบนัส สวัสดิการ ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร ข้อมูลการลดหย่อนภาษีบุคคล ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานรวมถึงสำหรับบุคลในครอบครัว ข้อมูลในใบรับรองแพทย์ ข้อมูลผลการตรวจสุขภาพประจำปี ข้อมูลเกี่ยวกับสินไหมทดแทนสำหรับประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันที่ครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาเข้าทำงาน ข้อมูลการกำหนดกะ (Shift) เวลาเข้างาน จำนวนชั่วโมงทำงาน ข้อมูลการลางาน บันทึกการเข้าออกบริษัทฯ บันทึกการเข้าออกพื้นที่ทำงาน บันทึกการยืมอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น
  • ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลบันทึกการเข้าใช้ระบบต่าง ๆ ของบริษัทฯ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลจากการบันทึกเข้าใช้งานโดยอัตโนมัติ (เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
  • ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวรจรปิด (CCTV) เป็นต้น
  • ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ตามกฎหมายกำหนดว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยก่อนวันที่มีผลบังคับใช้ บริษัทฯ จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 6 ของนโยบายฯ ฉบับนี้

 

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

 

 

วัตถุประสงค์

ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล

(ก) เกี่ยวกับการให้บริการและการจำหน่ายสินค้าแก่ลูกค้า รวมถึงการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

(1)

เพื่อการลงทะเบียนสมัครสมาชิกการซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ การเคลมรายการจองบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ แบบล่วงหน้า หรือการเปิดบัญชีลูกค้า

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินการตามคำขอของลูกค้า สำหรับการลงทะเบียนสมัครสมาชิกเข้าชมพิพิธภัณฑ์ตามระยะเวลาที่กำหนด  การจองบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯแบบล่วงหน้า การซื้อบัตรประเภทต่าง ๆ เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การเปิดบัญชีลูกค้ารายใหม่ที่เป็นนิติบุคคล เป็นการจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นตัวแทนลูกค้านิติบุคคล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล หรือผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีลูกค้า  เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

 

(2)

เพื่อการดำเนินการเข้าทำสัญญา ข้อตกลง การขายสินค้าและบริการ

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา ข้อตกลงเกี่ยวกับการขาย และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การเข้าทำสัญญา ข้อตกลง กรณีลูกค้านิติบุคคล เป็นการจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นตัวแทนลูกค้านิติบุคคล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล หรือผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีลูกค้า เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

 

(3)

เพื่อการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า การจัดเตรียมการให้บริการ การจัดเตรียมสินค้า รวมถึงการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาบริการและซื้อขาย ซึ่งลูกค้าเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดเตรียมที่พักกรณีลูกค้าที่เป็นหมู่คณะต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์แบบค้างคืน การวางบิล การชำระเงินและการจัดทำใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า เป็นต้น

-     ฐานความยินยอม:

·    เป็นการจำเป็นเพื่อสำรวจข้อมูลความพร้อมทางด้านสุขภาพร่างกายของลูกค้าสำหรับบางกิจกรรมในพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ กรณีที่ลูกค้าแสดงเจตนาที่จะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

·    เป็นการจำเป็นเพื่อขอความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครองตามที่กฎหมายกำหนด กรณีลูกค้าผู้เช้าชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน 20 ปี และประสงค์จะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ตามลำพังผู้เดียว

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีลูกค้านิติบุคคล เป็นการจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นตัวแทนลูกค้านิติบุคคล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคล หรือผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีลูกค้า เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

 

(4)

เพื่อการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า และการรับเรื่องร้องเรียน

 

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของ บริษัทฯ ในกรณีรับเรื่องร้องเรียนหรือข้อเสนอแนะจากลูกค้า

(ข) เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้า การทำธุรกรรมร่วมกับพันธมิตรทางการค้า รวมถึงการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง 

(1)

เพื่อการจัดซื้อ จัดจ้าง การคัดเลือกคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอเข้าเสนอราคาของคู่ค้าที่เสนอราคา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก่อนเข้าทำสัญญาซื้อขาย สัญญาให้บริการ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีคู่ค้านิติบุคคล เป็นการจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นตัวแทนคู่ค้านิติบุคคล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้านิติบุคคล หรือผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

 

(2)

เพื่อการเปิดบัญชีคู่ค้ารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อดำเนินการเปิดบัญชีคู่ค้ารายใหม่ และการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีคู่ค้านิติบุคคล เป็นการจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นตัวแทนคู่ค้านิติบุคคล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้านิติบุคคล หรือผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

 

(3)

เพื่อการจัดทำและบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับคู่สัญญาใด ๆ

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญาใด ๆ ที่ได้แสดงเจตนาในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีคู่ค้านิติบุคคล เป็นการจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นผู้ที่เป็นตัวแทนคู่ค้านิติบุคคล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้านิติบุคคล หรือผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อการบริหารจัดการสัญญาของบริษัทฯ

 

(4)

เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งเข้าทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น การติดต่อสื่อสาร การสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การตรวจรับสินค้าและตรวจสอบบริการ การตั้งหนี้และชำระค่าสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

 

(ค) เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารและกิจกรรมทางการตลาด

(1)

เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นในการติดต่อสื่อสารกับท่าน เกี่ยวกับการให้บริการหรือการขายสินค้าต่าง ๆ

 

(2)

เพื่อการประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ

-     ฐานความยินยอม: บริษัทฯ จะดำเนินการโดยขอรับความยินยอมจากท่าน ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ เช่น การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาดให้แก่ท่าน การจัดกิจกรรมทางการตลาด การประชาสัมพันธ์ทางการตลาดผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ เป็นต้น

 

(ง) เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาคุณภาพบริการและสินค้าของบริษัทฯ

(1)

เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

-     ฐานความยินยอม: กรณีที่บริษัทฯ เป็นฝ่ายขอเข้าเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น จากการขอสัมภาษณ์ การเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

 

(2)

เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของท่าน

-     ฐานความยินยอม: กรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากการใช้งานเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของบริษัทฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

 

(จ) เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล

(1)

เพื่อการรับสมัครงาน การคัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงาน ที่ได้แสดงเจตนาสมัครงาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคลากรของบริษัทฯ

-     ฐานความยินยอม:

·    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอ้างอิงของผู้สมัครงาน จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

·    กรณีที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่คาดว่าจะเป็นบุคลากรโดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เอง จากแหล่งอื่น เช่น เว็บไซต์สมัครงาน โดยผู้ที่คาดว่าจะเป็นบุคลากรยังไม่ได้แสดงเจตนาว่าประสงค์ที่จะสมัครงาน กับบริษัทฯ

(2)

เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจ้างงาน การบรรจุบุคลากรเข้าทำงาน การเข้าทำสัญญาจ้างงาน การดำเนินการอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน เช่น การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ประวัติสุขภาพ เป็นต้น

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินการเข้าทำสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นก่อนการเข้าทำสัญญาดังกล่าว

-     ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร เช่น ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากร

 

(3)

เพื่อการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์ของบุคลากร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การเบิกค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการส่วนลดสำหรับบุคลากร การตรวจร่างกายประจำปี และการประกันภัยแบบกลุ่ม

 

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นสำหรับบริษัทฯ เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา

-     ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เช่น ข้อมูลสุขภาพ เพื่อการบริหารจัดการการประกันภัยแบบกลุ่มหรือสวัสดิการอื่น ๆ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เป็นการจำเป็นต่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การจัดสรรสวัสดิการ รวมถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ของบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร

-    ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม

 

(4)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรตามสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งเข้าทำกับบริษัทฯ

 

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่หรือทำงานตามขอบเขตที่ระบุในสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งบุคลากรได้เข้าทำกับบริษัทฯ

(5)

เพื่อวัตถุประสงค์ในบันทึกเวลาทำงาน การจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา

-     ฐานกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร การหักเงินประกันสังคม เป็นต้น

-     ฐานความยินยอม: เป็นการจำเป็นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอ่อนไหวของบุคลากร เช่น ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลลายนิ้วมือ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากร

(6)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการการฝึกอบรมบุคลากรและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นต่อการบริหารจัดการการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากร เช่น การลงทะเบียนหลักสูตรอบรม การจัดให้มีแผนฝึกอบรมสำหรับบุคลากร ตลอดจนการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เหมาะสม สำหรับการจัดฝึกอบรม เป็นต้น

-     ฐานกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การยื่นแบบส่งเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ตามพ.ร.บ. ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 เป็นต้น

 

(7)

เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรบุคคล หรือใช้บังคับกับบริษัทฯ

-     ฐานกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กฎหมายภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การส่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรให้แก่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น

(8)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร เพื่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

(9)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการโอนย้ายบุคลากร

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้าง สัญญาโอนย้ายพนักงานซึ่งมีบุคลากรเป็นคู่สัญญา หรือสัญญาอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

-     ฐานความยินยอม: ในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของบุคลากร สำหรับการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรไปยังต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

(10)

เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในเรื่องอื่น ๆ เช่น การลงโทษทางวินัย การเลิกจ้าง การลาออก และ การเกษียณ เป็นต้น

-     ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา เช่น การเลิกจ้าง ในกรณีที่บุคลากรลาออกหรือเกษียณจากการทำงาน และการบันทึกประวัติการถูกลงโทษทางวินัยของบุคลากรที่ฝ่าฝืนระเบียบหรือข้อบังคับการทำงาน เป็นต้น

-     ฐานกฎหมาย: เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามกระบวนการเลิกจ้าง การลาออกหรือการเกษียณของบุคลากร ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น

-     ฐานกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานเช่น การลงโทษทางวินัย และการเลิกจ้าง เป็นต้น

(11)

เพื่อการติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงาน บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรหรือผู้สมัครงาน

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นในการติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงาน บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร

(ฉ) เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับบริษัทฯ และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(1)

เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือใช้บังคับกับบริษัทฯ

-     ฐานกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ เช่น กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นต้น

 

(2)

เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย  เช่น การดำเนินคดี การต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น

 

(ช) เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

(1)

เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล ทรัพย์สินของบริษัท และทรัพย์สินของบุคคลทั่วไป

-     ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล ทรัพย์สินของบริษัทฯ และทรัพย์สินของบุคคลทั่วไป เช่น การใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือความเสียหายในทรัพย์สินของบริษัท หรือของบุคคลทั่วไป การควบคุมการเข้าออกพื้นที่ของบริษัทฯ เป็นต้น

-     ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

 

 

  • ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือแจ้งไปยังท่าน เพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าว โดยท่านควรศึกษานโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือ หนังสือแจ้งไปยังท่าน ดังกล่าว

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไปยังบุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
      • บริษัทในเครือเมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยหมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ

        พนักงาน ลูกจ้าง บุคลากรภายในบริษัทดังกล่าว เฉพาะที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ

        ท่าน

  • ผู้ให้บริการที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการ

        ต่าง ๆ เช่น การตรวจสุขภาพของบุคลากร การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการรับส่งพัสดุไปรษณีย์ บริการ

        ประกันภัยและประกันชีวิต หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น สถาบันการเงิน โรงพยาบาล บริษัทประกัน

        ชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทจัดฝึกอบรม เป็นต้น   

  • ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอก

        บริษัทฯ เป็นต้น

  • หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย

        หรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครอง

        แรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

        กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล กรมบังคับคดี

        เป็นต้น

  • ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางการค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ที่ท่านเป็นผู้ติดต่อสื่อสาร

        หรือเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานของท่าน

  • บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใด ที่ท่านให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ

เช่น การเปิดเผยประมวลภาพในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ของบริษัทฯ หรือผ่านช่อง

ทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น

  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
  • ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผย และเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    • บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไป โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ
    • บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด และคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ หลังจากระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจากการจัดเก็บ และ/หรือจากระบบของบริษัทฯ รวมถึงของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด

 

  1. สิทธิต่าง ๆ ของท่านตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

 

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล:

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  • สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล:

ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล:

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล:

ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล:

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง:

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  • สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม:

ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

  • สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน:

หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 7 ของนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางอีเมล โดยใช้แบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยบริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิตามคำร้องฯ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด

  7. ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

บริษัท สยามโอเชี่ยนเวิร์ล กรุงเทพ จำกัด

อีเมล: DPO.Bangkok@merlinentertainments.biz

เบอร์โทร: +66 956644647

สถานที่ติดต่อ:  ชั้นบี1-บี2 สยามพารากอน, 991 ถนนพระราม 1, ปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330, ประเทศไทย

  8. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศนโยบาย ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

 

ให้นโยบาย ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564

 

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ดาวน์โหลด : แบบคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

Health